การเดินทางสู่จุดจบของจักรวาล

อะไรจะเกิดขึ้นกับเราในอีกไม่กี่ร้อยปีข้างหน้า? หรือในไม่กี่พันปี? จักรวาลจะถึงจุดจบแบบไหน? ไม่มีใครแน่ใจหรอกนะ แต่เรารวบรวมทฤษฎีทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ไว้ และหาคำตอบได้ แค่อีกศตวรรษถัดจากนี้ มนุษยชาติจะเป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มแรกเท่าที่เรารู้จัก ที่อาศัยอยู่นอกโลก ในอีก 1,000 ปี มนุษยชาติจะรับเอาเทคโนโลยีเข้ามา ไม่ใช่แค่ส่วนหนึ่งในชีวิต แต่เป็นข้างในร่างกายด้วยเช่นกัน เคยได้ยินเรื่องไซบอร์กไหม? แน่นอนว่ามนุษย์ทุกคนจะกลายเป็นแบบนั้นในอนาคต

อีก 100,000 ปีในอนาคต – ดาราจักรมากมายที่เรารู้จัก จะไม่อาจจดจำได้อีกต่อไป เพราะการเคลื่อนที่ตามธรรมชาติของดวงดาว และในเวลาอันใกล้นี้เช่นกัน โลกก็ต้องเฉลิมฉลองให้กับการระเบิดของภูเขาไฟลูกมหึมา ที่เกิดขึ้นในอนาคตอันห่างไกล ซึ่งแม็กม่าร้อนๆ และเถ้าภูเขาไฟจะเข้าปกคลุมผืนแผ่นดินนับล้านไมล์...

TIMESTAMPS:
การตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร 0:31
เราจะกลายเป็นไซบอร์กหรือ? 0:49
การระเบิดของภูเขาไฟลูกมหึมา 1:31
การทำลายล้างโลก 2:07
การระเบิดของบีเทลจุส 2:22
จะเกิดอะไรขึ้นกับดาวอังคาร? 2:36
เมื่อไหร่ที่สิ่งมีชีวิตบนโลกเราจะหายไป? 3:21
การกำเนิดของกาแล็คซี่ใหม่ 3:34
ตอนนั้นจะไม่มีดาวดวงใหม่อีก 4:52
ยุคเสื่อม 5:10
ยุคแห่งหลุมดำ 6:33
ยุคที่เวลาไม่มีความหมายอีกต่อไป 7:19
การกำเนิดของจักรวาลใหม่ 7:48

สรุป:
- ในอีก 100 ปี เทคโนโลยีจะพัฒนาก้าวกระโดด และเราจะเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่ใหญ่ยิ่งกว่าอินเตอร์เน็ต ในที่สุดเราก็จะออกไปตั้งถิ่นฐานที่ดาวใกล้ๆ ได้แล้วด้วย อย่าง ดาวอังคาร
- และนี่ก็คือ...อีก 10,000 ปีข้างหน้านับจากนี้. แอนทาเรส ดาวยักษ์แดงซึ่งส่องสว่างมากที่สุด เป็นลำดับที่สิบห้าบนฟากฟ้าของเรา จะเข้าสู่สภาวะซูเปอร์โนวา
- อีก 100,000 ปีในอนาคต – ดาราจักรมากมายที่เรารู้จัก จะไม่อาจจดจำได้อีกต่อไป เพราะการเคลื่อนที่ตามธรรมชาติของดวงดาว
- ในอีก 500,000 ปี ดาวของเราจะหยุดชะงักเพราะก้อนหินขนาดใหญ่ที่มาจากบนฟ้า ดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเกือบครึ่งไมล์ ถ้ามนุษย์ยังหาวิธีหลีกเลี่ยงการปะทะไม่ได้ เรื่องนี้จะทำให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงเป็นวงกว้างบนโลกแน่
- ในอีก 1 ล้านปี สองในสี่ของดวงจันทร์ ของดาวยูเรนัส จะปะทะเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดภาวะยุ่งเหยิงบนดาว
- แค่อีก 400,000 ปีถัดจากนี้ โฟบอส หนึ่งในดาวบริวารทั้งสองของดาวอังคาร จะแยกตัวออก เพราะแรงโน้มถ่วงที่เพิ่มมากขึ้น และดาวสีแดงนั้นก็จะมีวงแหวนเป็นของตัวเอง เหมือนอย่างดาวเสาร์
- 110 ล้านปีถัดจากนี้ คือช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ จะส่องสว่างขึ้นอีก 1% เรื่องนี้จะเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของดาวทุกดวงในระบบสุริยะ แม้กระทั่งตอนนี้ก็ทำให้ร้อนขึ้นทีละน้อยแล้ว
- 4 พันล้านปีถัดจากนี้ กาแล็คซี่ทางช้างเผือกจะชนเข้ากับกาแล็คซี่อันโดรเมด้า
- ในอีก 7.9 พันล้านปี ดวงอาทิตย์จะพองขยายอย่างมาก และกลายเป็นดาวยักษ์แดงที่ดูดกลืนดาวที่อยู่ใกล้ที่สุด- รวมถึงเศษหินที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นโลกด้วย
- ใน 100 พันล้านปี จักรวาลจะยืดขยายออกไปมากและรวดเร็วมาก จนแต่ละกาแล็คซี่ ไม่อาจมองเห็นกันและกันได้อีก
- ในอีก 1 ล้านล้านปี ดาวดวงใหม่จะไม่ปรากฏขึ้นในอวกาศอีก
- ในอีก 100 ล้านล้านปี ยุคเสื่อมจะเริ่มต้นขึ้น ด้วยความที่ไม่มีเชื้อเพลิงหล่อเลี้ยงดาวฤกษ์ใหม่ ดาวเหล่านั้นก็จะหยุดการก่อตัวไปเอง ต่อให้จะมีบางดวงพยายามก่อกำเนิดขึ้นก็ตาม
- ในอีกพันล้านล้านปี ดาวทั้งหมดจะถูกขับออกจากวงโคจรของตัวเอง และล่องลอยไปในอวกาศที่มืดมิดและหนาวเย็นด้านนอก
- ในอีกล้านล้านล้านล้านปี สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นดาวฤกษ์ จะถูกขับออกจากกาแล็คซี่ ล่องลอยไปในจักรวาลอันว่างเปล่า ในระยะเวลาที่เหลือ
- ตอนนี้ ในอีกล้านล้านล้านล้านปี ของล้านล้านล้านล้านปี จะไม่เหลืออะไรอยู่เลย ในขั้นนี้เรียกว่า ยุคมืด และเมื่อถึงจุดนี้ เวลาก็จะไม่มีความหมายอีกต่อไป
- สุญญากาศเทียม เพิ่งพองขยายและลุกไหม้ในอุณหภูมิที่ร้อนจัด ระเบิดไปในอวกาศที่ว่างเปล่า และเติมเต็มอวกาศนั้นด้วยพลังงานแบบใหม่
- มอบชีวิตใหม่ให้กับจักรวาล - และบางทีอาจไม่ใช่แค่หนึ่งเดียว คุณรู้จักเหตุการณ์นี้ในนามของ บิ๊กแบง และนั่นก็คือวิธีที่จักรวาลของเราถือกำเนิดขึ้น แล้วบางทีอาจกำเนิดใหม่หลังพันล้านของพันล้านปีผ่านไป
กดติดตามช่องชีวิตสดใส http://bit.do/brightside_thai
----------------------------------------------------------------------------------

เพลงของ Epidemic Sound https://www.epidemicsound.com/

ของในสต๊อก (รูปภาพ, วิดีโอ และอื่นๆ):
https://www.depositphotos.com
https://www.shutterstock.com
https://www.eastnews.ru

Видео การเดินทางสู่จุดจบของจักรวาล канала ชีวิตสดใส / Bright Side Thai